Call Center : 02-096-3298 
Line ID : @pawdymemberclub
การต้อนรับเจ้านายตัวน้อยเข้าบ้านเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น และยินดีเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ทาสแมวอย่างเรา ๆ แอบกังวลกันนิด ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการฝึกแมวเข้ากระบะทรายนี่แหละ เพราะถ้าเจ้าตัวแสบของเราขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง บ้านก็จะสะอาด ไร้กลิ่น แถมเจ้าเหมียวเองก็รู้สึกปลอดภัย สบายใจมากขึ้นอีกด้วย
บทความนี้จะมาแนะนำวิธีฝึกแมวเข้ากระบะทรายแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เรา และน้องแมวสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
เตรียมตัวอย่างไรก่อนฝึกแมวเข้ากระบะทราย
สาเหตุที่น้องแมวจำเป็นต้องฝึกใช้กระบะทรายเป็นเพราะ โดยธรรมชาติของน้องแมว พวกเค้ามีสัญชาตญาณในการฝังกลบสิ่งสกปรกหรือของเสียของตัวเอง และชื่นชอบพื้นผิวที่นุ่มสำหรับการขุดคุ้ย กระบะทรายจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน
นอกจากนี้ พวกเค้ายังมีประสาทรับกลิ่นที่ไว การเลือกทราย และสถานที่ที่เหมาะสมในการขับถ่ายจึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้น้องแมวใช้กระบะทรายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
1.เลือกกระบะทราย และทรายแมวที่เหมาะกับเหมียว
การเลือกกระบะทรายที่เหมาะสมกับน้องแมว เป็นสิ่งสำคัญในการฝึกให้น้องแมวใช้ห้องน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยควรคำนึงถึง ขนาด ประเภทของกระบะทราย และประเภทของทรายแมว เพื่อให้พวกเค้ารู้สึกสบาย และยอมใช้งานได้ง่ายที่สุด
1.1 ขนาดของกระบะทราย
การเลือกขนาดกระบะทรายที่เหมาะสมช่วยให้น้องแมวใช้งานได้สะดวก หากกระบะทรายเล็กเกินไป แมวอาจรู้สึกอึดอัด และไม่ยอมใช้งาน ในขณะที่กระบะทรายที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้แมวตัวเล็กเข้าออกลำบาก
- ลูกแมวหรือแมวตัวเล็ก – ควรเลือกกระบะทรายที่มีขอบต่ำ เพื่อให้เข้าออกได้ง่าย
- แมวโตหรือแมวตัวใหญ่ – ควรเลือกกระบะที่กว้างขึ้นตามขนาดตัวของแมว เพื่อให้พวกเค้ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับขุดกลบ
1.2 ประเภทกระบะทราย
กระบะทรายมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ละประเภทมีข้อดี และข้อเสียต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรม และความต้องการของน้องแมว
- กระบะทรายแบบเปิด – ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการฝึกน้องแมวให้ใช้ห้องน้ำ เนื่องจากมีราคาประหยัด หาซื้อได้ง่าย และเปิดโล่งทำให้แมวเข้าออกสะดวกโดยไม่รู้สึกอึดอัด อย่างไรก็ตาม กระบะทรายประเภทนี้ไม่สามารถช่วยกลบกลิ่นได้
- กระบะทรายแบบปิด – กระบะทรายประเภทนี้ช่วยลดกลิ่นได้ดี จึงเป็นที่นิยมในหมู่ทาสแมว แต่เนื่องจากมีขนาดค่อนข้างแคบ อาจทำให้น้องแมวบางตัวรู้สึกอึดอัดขณะใช้งานได้
- กระบะทรายอัตโนมัติ – เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยจัดการกลิ่นได้อย่างดี เหมาะสำหรับทาสแมวที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดบ่อย ๆ อย่างไรก็ตาม กระบะทรายประเภทนี้ มีราคาสูงกว่ากระบะทรายทั่วไป
1.3 ประเภททรายแมว
การเลือกทรายแมวที่เหมาะสมช่วยให้น้องแมวรู้สึกสบาย และใช้กระบะทรายได้ง่ายขึ้น โดยทรายแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
- ทรายแมวภูเขาไฟหรือทรายเบนโทไนต์ – ทรายชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการจับตัวเป็นก้อนเมื่อสัมผัสกับของเสีย ทำให้ตักทิ้งได้ง่าย และช่วยให้กระบะทรายสะอาดอยู่เสมอ ที่สำคัญคือราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ทรายเบนโทไนต์ไม่สามารถทิ้งลงชักโครกได้ และย่อยสลายได้ยาก จึงต้องกำจัดอย่างเหมาะสมโดยการนำไปทิ้งในถังขยะนั่นเอง
- ทรายแมวคริสตัล – ทรายชนิดนี้มีลักษณะเป็นเกล็ดใสสีต่าง ๆ ทำหน้าที่ดูดซับของเหลว แต่ไม่จับตัวเป็นก้อน ข้อดีของทรายคริสตัลคือมีฝุ่นน้อย ใช้งานได้นาน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หากล้าง และตากแห้ง
- ทรายแมวจากวัสดุธรรมชาติ – ทรายประเภทนี้ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ เช่น เศษไม้ ขี้เลื่อยหรือทรายเต้าหู้ที่ทำมาจากกากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ข้อดีของทรายประเภทนี้คือย่อยสลายได้เร็ว ไม่มีสารพิษตกค้าง และสามารถทิ้งลงชักโครกได้
Tips: เคล็ดลับฝึกแมวเข้ากระบะทราย เริ่มแรกควรเลือกทรายแมวที่ไม่มีกลิ่น และขนาดเล็ก เพื่อให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด เนื่องจากแมวมีประสาทรับกลิ่นที่ค่อนข้างไว อาจทำให้พวกเค้าไม่ชอบกลิ่น และหลีกเลี่ยงการเข้ากระบะทรายได้นั่นเอง
2.วางกระบะทรายในตำแหน่งที่เหมาะสม
การเลือกตำแหน่งในการวางกระบะทรายมีความสำคัญอย่างมาก ควรวางกระบะทรายในพื้นที่เงียบ และเป็นส่วนตัว ห่างจากที่กินอาหารหรือที่นอนของแมว เนื่องจากน้องแมวชอบความเป็นส่วนตัวในการขับถ่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการวางกระบะทรายในที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเสียงดัง เช่น เครื่องซักผ้า เพราะเสียงรบกวนเหล่านี้ อาจทำให้แมวรู้สึกกลัว และไม่ยอมใช้กระบะทรายได้
นอกจากนี้ จำนวนกระบะทรายก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรวางกระบะทรายเท่ากับจำนวนแมว + 1 เพื่อให้แมวแต่ละตัวมีพื้นที่ส่วนตัวในการขับถ่าย และควรวางกระบะทรายในหลาย ๆ จุดรอบบ้าน เพื่อให้แมวมีตัวเลือก และรู้สึกสบายใจในการใช้กระบะทรายมากขึ้น
เมื่อเราเข้าใจวิธีการเลือกทราย กระบะทราย และตำแหน่งที่ควรวางกระบะทรายแล้ว ก็ถึงเวลาพาน้องแมวไปทำความรู้จักกับกระบะทรายกันเลย
วิธีฝึกแมวเข้ากระบะทราย
- พาน้องแมวไปทำความรู้จักกับกระบะทราย
ช่วงอายุที่เหมาะสมในการฝึกแมวเข้ากระบะทรายคือช่วงอายุ 4 สัปดาห์หรือหากรับเลี้ยงน้องแมวที่อายุมากกว่านั้นควรเริ่มฝึกทันที หลังจากที่จัดวางกระบะทรายในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ให้พาน้องแมวมาทำความรู้จักกับกระบะทราย โดยพาพวกเค้าไปยืนในกระบะแล้วใช้มือขูดทรายเบา ๆ เพื่อแสดงให้น้องแมวเห็นว่าพวกเค้าสามารถขุดทรายได้ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของแมวให้รู้จักการใช้กระบะทรายเอง
- เลือกเวลาฝึกที่เหมาะสม
น้องแมวมักมีพฤติกรรมขับถ่ายหลังจากกินอาหารเสร็จ ดังนั้นหลังจากที่น้องแมวกินอาหารเสร็จ ควรรีบพาเค้าไปที่กระบะทรายทันที การทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จะช่วยให้น้องแมวเข้าใจว่ากระบะทรายคือสถานที่สำหรับขับถ่าย นอกจากนี้ การใช้กลิ่นของอุจจาระเดิมของน้องแมวอาจช่วยดึงดูดให้เค้ามาขับถ่ายที่เดิม ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
- หมั่นทำความสะอาดกระบะทราย
ความสะอาดของกระบะทรายเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ควรตักสิ่งสกปรกออกจากกระบะทรายทุกวัน และเปลี่ยนทรายใหม่ทุกสัปดาห์ การรักษากระบะทรายให้สะอาดจะช่วยให้น้องแมวยอมใช้กระบะทรายบ่อยขึ้น และรู้สึกสบายใจในการใช้งานมากขึ้น
- ชื่นชม และให้รางวัล
การชื่นชม และให้รางวัลเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกน้องแมว เมื่อเค้าใช้กระบะทรายสำเร็จ อย่าลืมชื่นชมพวกเค้าด้วยคำพูดน่ารัก ๆ เช่น เก่งมาก หรือให้ขนมเป็นรางวัล วิธีนี้จะช่วยให้น้องแมวรู้สึกดี และกระตือรือร้นที่จะใช้กระบะทรายอีกครั้ง การดุหรือทำเสียงดังอาจทำให้พวกเค้ากลัว และไม่อยากใช้กระบะทรายอีกต่อไป หากน้องแมวยังปรับตัวไม่ได้ทันที ควรใช้ความอดทน และฝึกพวกเค้าด้วยความใจเย็น ไม่ควรลงโทษหรือดุเค้าเมื่อทำผิด
การสอนน้องแมวใช้กระบะทรายไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมล่ะ ? เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่าทาสแมวมือใหม่ก็สามารถช่วยให้น้องแมวน่ารัก และมีระเบียบขึ้นได้ในไม่ช้า สิ่งสำคัญในการฝึกแมวเข้ากระบะทรายคือการเลือกทราย และกระบะทรายที่เหมาะสม การจัดวางในที่ที่สะดวก และปลอดภัย รวมถึงการรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนั้นการฝึกแมวเข้ากระบะทราย ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมสร้างความผูกพันระหว่างเรา และน้องแมว เมื่อเราค่อย ๆ สอนด้วยความรัก และความอดทน น้องแมวจะเรียนรู้ และปรับตัวได้ไวมากขึ้น การให้กำลังใจด้วยคำพูดหรือของรางวัลเล็ก ๆ เมื่อพวกเค้าทำได้ดี ก็จะยิ่งช่วยให้น้องแมวรู้สึกมั่นใจ และอยากทำตาม อย่าลืมสนุกไปกับการเลี้ยง และดูแลพวกเค้านะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
