ดวงตาแป๋ว ๆ ของน้องแมวที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก นอกจากจะใช้ตกทาสแมวมาหลายต่อหลายคนแล้ว ยังเป็นอวัยวะสำคัญที่เหล่าทาสแมวต้องใส่ใจ เพื่อป้องกันความผิดปกติทางดวงตาที่อาจตามมา ยกตัวอย่างเช่น อาการตาแฉะ นั่นเอง
แล้วถ้าน้องแมวตาแฉะ ทาสอย่างเราต้องดูแลยังไง หรือป้องกันได้อย่างไรบ้าง มาหาคำตอบได้ที่บทความนี้กันได้เลย
น้องแมวตาแฉะคืออะไร
อาการน้องแมวตาแฉะหรือตาอักเสบ คือภาวะที่มีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนเลี้ยงแมว เนื่องจากอาการตาแฉะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้รับการรักษา ผิวหนังรอบดวงตาของน้องแมวอาจเกิดการระคายเคืองหรือเป็นแผลตามมาได้
สาเหตุที่ทำให้น้องแมวตาแฉะ
อาการตาแฉะในน้องแมวสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
1. เยื่อบุตาขาวอักเสบและการติดเชื้อไวรัส
น้องแมวที่ติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะไวรัสที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น Feline Herpesvirus (FHV-1) หรือ Feline Calicivirus (FCV) มักจะแสดงอาการโดยมีเยื่อบุตาขาวขึ้นมาปิดบริเวณดวงตามากกว่าปกติ (ตาขาวบวมแดง)
น้องแมวที่ติดเชื้อมักเป็นกลุ่มน้องแมวเด็กที่ไม่เคยผ่านการทำวัคซีนมาก่อน หรือแมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการตาแฉะ และตาอักเสบได้ หากพบอาการดังกล่าว ควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
2. การเกิดบาดแผลที่กระจกตา
น้องแมวอาจได้รับบาดเจ็บจากการขีดข่วนระหว่างเล่นกับแมวตัวอื่นหรือจากการวิ่งชนสิ่งของจนได้รับบาดแผลบริเวณกระจกตา นอกจากนี้ การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่เข้าสู่แผล หรือได้รับสารเคมีที่ระคายเคืองเข้าสู่ดวงตา ก็สามารถทำให้เกิดอาการตาแฉะได้
อาการที่สังเกตได้คือ น้องแมวจะหรี่ตา กระพริบตาถี่ ๆ และมีน้ำตาไหลออกมามาก และอาจมีอาการเจ็บปวด เมื่อน้องแมวมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาน้องแมวของท่านไปพบสัตวแพทย์ เพื่อประเมินบาดแผลและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
3. สายพันธุ์ของน้องแมว
บางสายพันธุ์ของน้องแมวมีแนวโน้มที่จะมีอาการตาแฉะมากกว่าสายพันธุ์อื่น โดยเฉพาะแมวพันธุ์หน้าสั้น เช่น เปอร์เซีย, เอ็กโซติกช็อตแฮร์,หิมาลายัน
เนื่องจากมีโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่สั้น ทำให้ท่อน้ำตาหรือต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ น้ำตาจึงไม่สามารถไหลออกมาบริเวณร่องแก้มของน้องแมว และอาจทำให้เกิดคราบน้ำตาสีน้ำตาลแดงได้
4. ท่อน้ำตาอุดตัน หรือ ท่อน้ำตาอักเสบ
อาการตาแฉะในน้องแมวอาจเกิดจากการที่ท่อน้ำตาเกิดการอุดตัน ทำให้น้ำตาไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ หรือเกิดการอักเสบของท่อน้ำตา ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อ หรือการอักเสบเรื้อรัง
หากคุณพ่อ คุณแม่ สังเกตเห็นความผิดปกติต่าง ๆ เช่น น้ำตาไหลตลอดเวลา มีขี้ตาข้น หรือมีอาการบวมบริเวณท่อน้ำตา ควรรีบนำน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการล้างท่อน้ำตา และรักษาอาการอักเสบร่วมด้วย
สัญญาณเตือนเมื่อน้องแมวมีปัญหาดวงตา
นอกเหนือจากอาการตาแฉะแล้ว การสังเกตสัญญาณเตือนอื่น ๆ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ได้ทันท่วงที
- มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตามากผิดปกติ อาจเป็นน้ำใส ๆ หรือมีลักษณะข้น
- มีคราบเปรอะเปื้อนหรือคราบสีน้ำตาลแดงบริเวณใต้ตา และรอบดวงตา
- น้องแมวเลียบริเวณรอบดวงตาบ่อยกว่าปกติ
- อาจมีอาการตาแดง บวม หรือมีขี้ตามากผิดปกติ อาจเป็นสีเหลือง เขียว หรือขาวขุ่น
- น้องแมวอาจแสดงอาการเจ็บปวด เช่น หยีตาหรือเอามือปัดบริเวณดวงตา
- เปลือกตาปิดไม่สนิทหรือมีอาการหย่อนคล้อย
การดูแลและการป้องกันแมวตาแฉะ
การดูแล และป้องกันอาการตาแฉะในน้องแมวสามารถทำได้หลายวิธี เพื่อให้ดวงตาของพวกเขาสุขภาพดีอยู่เสมอ
- ทำความสะอาดรอบดวงตา
หมั่นทำความสะอาดบริเวณรอบขอบดวงตาของน้องแมวอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น หรือน้ำยาเช็ดตาสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เช็ดคราบน้ำตา และสิ่งสกปรกบริเวณรอบดวงตาอย่างเบามือ เช็ดจากหัวตาไปหางตา และใช้สำลีแผ่นใหม่สำหรับดวงตาแต่ละข้างเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
หากจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อลดการระคายเคือง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ
- พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรักษา
หากพบความผิดปกติที่ดวงตาของน้องแมว ไม่ว่าจะเป็นอาการตาแฉะ ขี้ตาเยอะ ตาแดง หรือมีอาการเจ็บปวด ควรรีบพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรค และให้การรักษาที่ตรงจุดและแม่นยำ
หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะมาใช้เองโดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงหรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
- รักษาความสะอาดตัวของน้องแมว
อาบน้ำหรือเช็ดตัวน้องแมวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการตาแฉะ
- ทำความสะอาดบริเวณที่อยู่ของน้องแมว
ทำความสะอาดบริเวณที่อยู่ของน้องแมวอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่นอน ของเล่น กระบะทราย และบริเวณที่น้องแมวใช้ชีวิตอยู่ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นผง เกสรดอกไม้ และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของการระคายเคืองหรือการติดเชื้อที่ดวงตาได้
- เสริมอาหารที่ครบถ้วน
การให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และสมดุลเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงสุขภาพดวงตาด้วย อาจเสริมวิตามิน A และ E ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา และสุขภาพผิวหนังรอบดวงตาให้สดใสและแข็งแรง
การดูแลดวงตาของน้องแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากน้องแมวมีอาการตาแฉะหรือความผิดปกติใด ๆ เกี่ยวกับดวงตา ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ และการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมวที่คุณรัก
และสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่กำลังมองหาอาหารแมวที่ให้คุณค่าทางสารอาหารแบบครบองค์รวม พร้อมวิตามิน และแร่ธาตุที่ดีพอ และพอดีสำหรับลูกรักแล้วล่ะก็ ขอแนะนำ
Pawdy Holistic Feline อาหารแมวที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม อัดแน่นด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์แท้ ๆ พร้อมสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพของพวกเค้าแบบครบถ้วน
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของน้องแมว ไม่ว่าอยู่ในช่วงวัยไหน ก็มีสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก