ทาสแมวหลาย ๆ คนเคยสังเกตกันไหมว่า เวลาที่เรากำลังทานข้าว เจ้านายตัวน้อยของเรามักจะยื่นหน้ามาดมฟุดฟิดด้วยความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้งในมื้อเช้า ขนมหวานช่วงสาย ๆ หรือแม้แต่ผลไม้ในช่วงที่เรากำลังคุมน้ำหนัก
แล้วแมวกินผลไม้ได้ไหม ? โดยเฉพาะบรรดาผลไม้สีสันสดใสที่แสนน่ากินของเรา แล้วผลไม้ที่แมวกินได้มีอะไรบ้างหรือผลไม้ใดบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกเค้ากิน บทความนี้จะพาเหล่าทาสแมวมาไขข้อสงสัยกัน พร้อมรวบรวมผลไม้ที่แมวกินได้ และปลอดภัย เพื่อให้เจ้าเหมียวได้รับสารอาหารที่หลากหลาย และมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
แมวกินผลไม้ได้ไหม ?
น้องแมวของเราสามารถกินผลไม้ได้ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ (Obligate carnivores) ที่ต้องการเนื้อสัตว์มาเป็นแหล่งพลังงานหลัก แต่เมื่อถูกรับมาเลี้ยงกลายมาเป็นแมวบ้าน ความหลากหลายของอาหารก็มีมากขึ้นตามไปด้วย เพราะแมวส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ขี้สงสัย มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบดม และชอบลองชิมสิ่งต่าง ๆ
บางคนอาจเคยได้ยินคำว่า “แมวไม่รู้รสหวาน” ซึ่งเป็นความจริง พวกเค้าไม่สามารถรับรสหวานได้ แม้แมวจะมีต่อมรับรส (Taste buds) เหมือนกับคน เพราะในธรรมชาติ แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกเค้าจึงไม่มีความต้องการน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินความจำเป็น ทำให้ไม่จำเป็นต้องพัฒนาต่อมรับรสหวาน
ดังนั้น แม้พวกเค้าจะสามารถกินผลไม้ได้ แต่ก็ไม่สามารถรับรู้รสหวานแสนอร่อยของผลไม้ที่กินได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม กลิ่น และเนื้อสัมผัสของผลไม้สามารถกระตุ้นความสนใจของน้องแมวได้
การให้ผลไม้ในบางโอกาส ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับมื้ออาหาร และลดความเบื่ออาหารของน้องแมวได้ แต่ควรให้ในปริมาณที่จำกัด รวมถึงควรรู้ว่าผลไม้ชนิดไหนที่ปลอดภัย สามารถให้น้องแมวกินได้หรือผลไม้ชนิดไหนเป็นอันตรายต่อพวกเค้า
รวมผลไม้ที่แมวกินได้
- แอปเปิล
แอปเปิลเป็นแหล่งของวิตามิน K, A และ C อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และแคลเซียม (Calcium) แต่เมื่อต้องการให้น้องแมวได้กิน ต้องนำเมล็ดออกก่อนทุกครั้ง เนื่องจากเมล็ดแอปเปิลเป็นที่สะสมของไซยาไนด์ (Cyanide) หากกินในปริมาณมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ และควรระวังเรื่องการเน่าเสีย เพราะจะเป็นการเพิ่มระดับเอทานอล (Ethanol) ที่เป็นพิษต่อร่างกายให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ เนื้อสัมผัสที่แสนกรุบกรอบของแอปเปิล ยังช่วยกระตุ้นความสนใจให้น้องแมวของเราได้เป็นอย่างดี และในเนื้อแอปเปิลยังมีน้ำอยู่มาก ทำให้แอปเปิลเป็นผลไม้ที่ป้องกันภาวะขาดน้ำได้อีกด้วย
- กล้วย
กล้วยมีเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ สามารถกระตุ้นความสนใจ และความอยากอาหารต่อน้องแมวได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง ควรควบคุมการให้ในปริมาณที่พอดี และเหมาะสม อย่างไรก็ตาม กล้วยเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ เป็นแหล่งของโพแทสเซียม (Potassium), เส้นใยอาหาร, วิตามิน B6 และ C ซึ่งช่วยเสริมสุขภาพให้กับพวกเค้าได้
- แคนตาลูป
แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อน้องแมวอย่างมาก ช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร และอุดมไปด้วยวิตามิน B6, A และ C รวมถึงไนอาซิน (Niacin) และโพแทสเซียม อีกทั้งยังมีปริมาณแคลอรีต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมตามวัยของน้องแมวได้ และเสริมการทำงานของเซลล์ให้แข็งแรง
- แตงโม
แตงโมเป็นผลไม้คลายร้อนที่ใช้ป้องกันภาวะขาดน้ำได้ดี ซึ่งทาสแมวหลายคนนิยมนำมาให้น้องแมวกินในช่วงหน้าร้อน เพราะเนื้อแตงโมมีน้ำอยู่มาก นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน A และ C อย่างไรก็ตาม ควรให้ในปริมาณที่จำกัด เพราะแตงโมมีรสหวานจากน้ำตาล หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอย่าลืมนำเมล็ดออกทุกครั้งเพื่อป้องกันการสำลัก
- สตรอว์เบอร์รี่
สตรอว์เบอร์รี่ และผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่นั้น เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากรสหวานอมเปรี้ยวแสนอร่อยแล้ว ยังเป็นแหล่งวิตามิน B และ C รวมถึงโพแทสเซียมและแมงกานีส (Manganese) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงหัวใจ และเสริมคาร์โบไฮเดรตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลไม่สูงอีกด้วย
แต่ก่อนที่จะให้น้องแมวกิน ควรล้างสตรอว์เบอร์รี่ให้สะอาดเพื่อลดสารตกค้าง และนำก้านกับใบออกเพื่อความปลอดภัย โดยสามารถให้ได้ทั้งแบบสด แช่แข็งหรือบดละเอียดมาแล้วก็ได้ ตามที่แต่ละบ้านสะดวก
- ฟักทอง
ฟักทองเป็นแหล่งของเส้นใยอาหารชั้นดี จึงมีประสิทธิภาพในการช่วยเสริมสุขภาพในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก และมีประโยชน์อย่างมากในกรณีที่น้องแมวมีอาการท้องเสียหรือท้องผูก ก่อนนำมาให้น้องแมวกินควรปรุงสุก นำเมล็ดออก และอาจบดให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อให้พวกเค้ากินได้ง่าย และเพิ่มความอร่อยมากขึ้นด้วยนั่นเอง
ผลไม้ที่เป็นอันตรายสำหรับน้องแมว
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว และเกรปฟรุต เป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับน้องแมว เพราะมีกรดซิตริก (Citric acid) โดยจะมีปริมาณที่แตกต่างกันไปตามแต่ละส่วน ตั้งแต่ใบ เมล็ด ไปจนถึงลำต้น หากกินในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้น้องแมวบางตัวอาจมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน อาเจียน ท้องเสียได้ หรืออาจเกิดการอักเสบของผิวหนังจากการสัมผัสกับสารที่เมื่อถูกแสงแดดแล้วจะกลายเป็นพิษ (Phototoxic contact dermatitis) ในกรณีร้ายแรงอาจเกิดอาการชักหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- อะโวคาโด
อะโวคาโดที่ทาสแมวหลายคนนิยมรับประทาน สำหรับน้องแมวแล้วกลับเป็นอันตรายต่อพวกเค้าอย่างมาก เนื่องจากในอะโวคาโดนั้นมีสารเพอร์ซิน (Persin) ซึ่งสามารถทำให้น้องแมวเกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย และส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้
- องุ่น
องุ่น และลูกเกด เป็นผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับแมว แม้ผลกระทบอาจไม่ชัดเจนมากนัก แต่ในสุนัข องุ่นสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายได้ จึงมีโอกาสที่องุ่น และลูกเกดอาจส่งผลต่อแมวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลกลไกการเกิดพิษที่แน่ชัด จึงไม่สามารถคาดเดาปริมาณที่จะส่งผลให้เกิดความเป็นพิษต่อร่างกายได้ จึงทำได้เพียงให้หลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของน้องแมว
ข้อแนะนำการให้ผลไม้กับน้องแมว
- ควรให้ในปริมาณน้อย และไม่บ่อยเกินไป เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
- ควรล้างทำความสะอาด และเตรียมอย่างเหมาะสม เช่น ปอกเปลือก นำเมล็ดออกหรือการหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนให้ เพื่อให้พวกเค้ากินได้ง่ายขึ้น
- สังเกตอาการน้องแมวหลังจากให้ผลไม้ทุกครั้ง หากพบความผิดปกติ เช่น ซึม อาเจียน ท้องเสีย ควรหยุดการให้ และพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
การเลือกผลไม้ที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อน้องแมว จะช่วยให้พวกเค้าได้เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารมากขึ้น พร้อมได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่หลากหลาย ช่วยให้พวกเค้ามีสุขภาพดี พร้อมวิ่งซนไปกับพวกเราเหล่าทาสแมวไปได้อีกนานนน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
7 ผลไม้ น้องหมา น้องแมว ทานได้ แถมมีประโยชน์ต่อร่างกาย (2567) สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2797590
10 Fruits & Veggies To Give To Your Cat (2024) สืบค้นจาก https://petsitters.org/page/10FruitsVeggiesToGiveToYourCat
Ever wondered if cats can taste sweet foods? (2018) สืบค้นจาก https://www.cats.org.uk/cats-blog/can-cats-taste-sugar
What Fruits Can Cats Eat? (2023) สืบค้นจาก https://www.thesprucepets.com/what-fruits-can-cats-eat-7504584
What fruits can cats eat? (2023) สืบค้นจาก https://www.purina.co.uk/articles/cats/feeding/what-cats-eat/what-fruits-can-cats-eat