มีหลักฐานทางวิจัยวิทยาศาสตร์ชี้ชัดแล้วว่า สุนัขจัดเป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์เป็นอาหาร (Omnivorous) ซึ่งเคยมีการชี้ชัดแล้วว่าบรรพบุรุษของสุนัข อาจมาจากสายพันธุ์ สุนัขป่าอีกทอดหนึ่ง ซึ่งสุนัขป่าจะกินเนื้อของเหยื่อทั้งหมดทุกส่วน เป็นการบ่งบอกเลยว่า แม้กระทั่งกากใยพืชผักที่อยู่ในกระเพาะอาหารก็ไม่เหลือด้วยเช่นกัน
เมื่อคุณทราบเช่นนี้แล้ว เจ้าของสุนัขก็ควรจะปรับแนวคิดการให้อาหารหรือปรับอัตราส่วนการให้อาหารสุนัขทั้งเนื้อสัตว์และพืชผักผสมกันให้ได้เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สุนัขรับสารอาหารอย่างครบครันจริง ๆ
ข้อมูลการให้อาหารสุนัขจากข้อมูลโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน
ลูกสุนัขวัย 6-10 สัปดาห์ (1 เดือนครึ่ง – 2 เดือนครึ่ง)
สุนัขวัยนี้มีพฤติกรรมเพียง 2 อย่างที่ทำเป็นประจำคือ กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน แค่นี้เท่านั้น เพราะถือว่าเป็นวัยที่ต้องการการเติบโตอย่างมาก การเดินก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะเดินเล่นไปไหนได้ ดังนั้น เจ้าของต้องป้อน น้ำนมแม่หรือนมรสจืดสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ (หาซื้อได้ที่ Petshop) หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูป ที่แช่ในน้ำจนเม็ดนิ่มพอที่จะให้เค้ากินได้ หรือจะนำอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่แช่จนนิ่มมาแช่ในนมรสจืด เพื่อเพิ่มความอร่อยก็ยังได้
จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า หากหาซื้อนมรสจืดสำหรับลูกสุนัขไม่ได้ ก็สามารถนำนมแพะมาให้เค้าดื่มแทน และอย่านำนมวัว, นมผง, นมกล่อง มาให้เค้ากิน เพราะมีสิทธิ์ท้องเสียได้
ลูกสุนัขวัย 10-12 สัปดาห์ (2 เดือนครึ่ง – 3 เดือน)
ในวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มหย่านมแม่แล้ว สามารถให้เค้าทานนมรสจืดสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ หรือนมแพะสำหรับสุนัขก็ได้ โดยนมสำหรับสุนัขสามารถหาซื้อตาม Shopping Online หรือ Petshop และสุนัขในวัยนี้ก็สามารถเริ่มทานอาหารเม็ดสำเร็จรูปโดยที่ไม่ต้องแช่น้ำได้เลย
ส่วนอาหารสำหรับสุนัขวัยนี้ ควรจะเป็น นมรสจืด, ไข่ต้ม (ไม่เอาไข่แดง) และอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำให้นิ่มอีกต่อไป
บดไข่แดงเล็กน้อยแล้วนำไปคลุกรวมกับอาหารเม็ด เทนมจืดผสมโดยไม่ต้องคลุก นำไปให้ลูกสุนัขกินหรืออาจจะแยกนมให้ลูกสุนัขกินต่างหาก ให้ลูกสุนัขกินไข่แดงคลุกอาหารเม็ดวันละ 3-4 มื้อ
สุนัขวัย 3 -12 เดือน
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่พีคมาก เพราะสารอาหารทั้งหมดจะนำไปหล่อเลี้ยงและเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตก่อนจะก้าวเข้าสู่สุนัขวัยผู้ใหญ่ในระยะเวลาอันสั้น ที่สำคัญสุนัขวัยนี้หย่านมเด็ดขาดแล้ว เจ้าของสุนัขจึงต้องหาอาหารสุนัขมาทดแทนนมแม่ ซึ่งก็คือ นมรสจืดสำหรับสุนัข หรือน้ำนมแพะ, อาหารเม็ดสำเร็จรูป ไม่ต้องแช่น้ำก่อนทาน และไข่ต้ม เลือกเฉพาะไข่แดง นำส่วนผสมทั้ง 3 มาบดคลุกเคล้าเข้ากันและกัน ให้เค้าทานวันละ 3-4 มื้อ สำหรับสุนัขวัย 3-5 เดือน
แต่ถ้าสุนัขอยู่ในช่วง 6 เดือนขึ้นไป ขอแนะนำว่าให้ทานเพียงแค่วันละ 2 มื้อเท่านั้น
สุนัขวัย 12 เดือนขึ้นไป
สุนัขช่วงวัยนี้เสิร์ฟอาหารวันละ 2 มื้อ สามารถป้อนอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีบนท้องตลาดให้เค้าทานได้แล้ว แต่ก็ยังมีเมนูแนะนำสำหรับสุนัขวัยนี้ด้วย เช่น เนื้อบด, ข้าว, ผักต้มในน้ำซุป อาจจะมีเพิ่มกระดูกอ่อนต้มกับน้ำซุปเพื่อให้กระดูกสามารถขัดฟันได้ โดยไม่ทิ่มแทงระบบทางเดินอาหาร (การให้สุนัขแทะกระดูกแข็งนั้นอันตรายมาก)
สุนัขวัยชรา
สุนัขวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการเกษียณอายุตัวเองควรเสิร์ฟอาหาร 2 มื้อ/วัน เหมือนกับคนก็ต้องการพักผ่อน ดังนั้น สุนัขจึงไม่ต้องการสารอาหารจำนวนมาก เพื่อป้องกันการเป็นโรคไต ตับ หรือระบบการย่อยอันเนื่องจากรับอาหารและสารอาหารมากเกินไปจนขับออกไม่ทัน สิ่งที่ต้องควรทำอย่างมากคือ ต้องลดปริมาณโปรตีน, แร่ธาตุ และเกลือ (โซเดี่ยม) ลงทันที แน่นอนว่าควรเตรียมน้ำดื่มให้เค้าเยอะ ๆ เพื่อป้องภาวะโรคขาดน้ำ ตามความเสี่ยงของวัย
จะพบว่า keyword หลักของการให้อาหารสุนัขที่ถูกต้องคือ การป้อนอาหารตามแต่ละช่วงวัย เพราะวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสุนัข ก็มีวงจรเหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันหมด
นอกจากนี้เรายังควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการให้อาหารสุนัขที่ถูกวิธีด้วยเช่นกัน (Feeding Regiment)
-Free Choice Feeding หรือให้อาหารสุนัขแบบวางทิ้งไว้คล้ายกับบุพเฟต์ สุนัขสามารถกินได้ตามใจตลอดทุกเมื่อ เมื่อมันต้องการ สุนัขจะปรับตัวเองได้ตามความอยากอาหาร
มีข้อดีคือ เหมาะสำหรับสุนัขป่วย, สุนัขที่รู้ตัวว่ากินได้น้อย แต่ข้อเสียก็คือ เราทราบความผิดปกติในการกินได้ยากมาก
-Time Controlled Feeding หรือ ให้อาหารตามกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน เมื่อหมดเวลาจะเก็บภาชนะไป วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงสุนัขหลายเสียงยืนยันว่าเป็นทางสายกลางที่ใช้ได้
ข้อดี คือ สุนัขสุขภาพดี, ลดอาการหิวระหว่างวัน ข้อเสีย คือ อาจทำให้สุนัขเรียนรู้ที่จะกินอาหารเร็ว ๆ โดยเฉพาะถ้าเลี้ยงกันเป็นคอก สุนัขก็เร่งกินเพื่อทำเวลา วิธีแก้คือ เจ้าของต้องจับเวลาช่วงเวลาที่มันกินอิ่มสม่ำเสมอ ไม่ควรเก็บภาชนะเร็วเกินไป
-Portion Controlled Feeding เจ้าของต้องคำนวณปริมาณการให้อาหารสุนัขในแต่ละวันเอง ต้องคำนวณพลังงานของแต่ละตัวเป๊ะ ๆ วิธีนี้เป็นวิธีการให้อาหารสุนัขที่ดีที่สุด
ข้อดีคือ เจ้าของติดตามพฤติกรรมสุนัขอย่างใกล้ชิดมาก ทำให้ทราบสาเหตุการป่วยได้ไวมาก ข้อเสียคือ เจ้าของต้องมีความรู้เป็นอย่างมาก
เมื่อเราสังเกตสัดส่วนการให้อาหารของสุนัขแต่ละช่วงวัยจะพบว่า เจ้าของก็สามารถป้อนอาหารเม็ดสำเร็จรูปได้ตั้งแต่สุนัขอายุ 6 สัปดาห์แล้ว และสามารถเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จจนถึงวัยชรากันเลย โชคดีที่วันนี้อาหารเม็ดสำเร็จรูปทั่วโลกต่างพัฒนามาสำหรับสุนัขทุกช่วงวัยออกมาแล้ว ทำให้เจ้าของไม่ต้องกังวลใจไปว่าสุนัขของเราจะรับสารอาหารมากเกินความจำเป็นเกินไปไหม เพราะผู้ผลิตส่วนใหญ่ต่างถูกควบคุมด้านโภชนาการมาอย่างดีแล้ว
สำหรับลูกสุนัขวัย 6 สัปดาห์ขึ้นไป แนะนำให้ทาน Pawdy สูตร Puppy&Mom รสแกะและข้าว สำหรับลูกและแม่สุนัขที่ต้องการพลังงานขั้นสุดเพื่อการเจริญเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ผสมผัก 3 สีเพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหารสำหรับการเติบโตในก้าวต่อไป
เหตุผลที่ทำไม Pawdy สูตร Puppy&Mom รสแกะและข้าว ต้องใช้เนื้อแกะแท้ ผสมไขมันวัว ก็เพราะว่าสุนัขทุกตัวไวต่อรสสัมผัสและกลิ่นของเนื้อแกะแท้อย่างมาก หากเปิดถุงเมื่อไร สุนัขจอมซนของเราน้ำลายไหลและอยากเอาหน้าซุกลงในถุง Pawdy รสนี้อย่างแน่นอน เมื่อรสชาติอร่อยและมีคุณค่าโภชนาการสูง ก็ย่อมช่วยให้สุนัขเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ
Pawdy Puppy&Mom รสเนื้อแกะและข้าว (สำหรับแม่สุนัขและลูกสุนัขที่มีอายุไม่เกิน 12 เดือน) ประกอบไปด้วยโปรตีน 28% ไขมัน 12% โซเดียม 0.43% จะสังเกตได้ว่า % ของโปรตีนและไขมันอยู่ในระดับสูง ก็เพราะว่าแม่สุนัขและลูกสุนัข ต้องการสารอาหารในปริมาณที่สูงเพื่อให้แม่สุนัขนำไปผลิตน้ำนม และลูกสุนัขเองก็จะนำสารอาหารมาใช้การเจริญเติบโต
Pawdy Puppy&Mom รสเนื้อแกะและข้าว ยังมีกลูโคซามีน สารอาหารที่ค้นพบแล้วว่าช่วยฟื้นฟูข้อต่อได้ และยังมีบรีเวอร์ ดรายยีสต์ ที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ลดอาการคัน และขนร่วง ปรับสมดุลลำไส้, มีโคลีน เพื่อสุขภาพสมองโดยรวม, มีไบโอติน ซิงค์ และ โอเมก้า 6 ฟื้นฟูสุขภาพผิวหนังและขนให้สวยงาม
สั่งซื้อ Pawdy Puppy&Mom รสเนื้อแกะและข้าว สำหรับลูกสุนัขและแม่สุนัขตอนนี้ ถ้าอยากให้สุนัขสุดที่รักของคุณเติบโตอย่างมีคุณภาพตั้งแต่รากฐาน เพราะช่วงที่เราต้องประคบประหงมมากที่สุดคือในช่วงตอนที่เป็น ลูกสุนัข สั่งซื้อทันที
สำหรับสุนัขวัย 1 ปีขึ้นไป ต้องให้เค้าทาน Pawdy รสแกะรมควัน มีโปรตีน 10% ไขมัน 10% โซเดียม 0.09% ช่วยกระตุ้นการรับประทานให้เอร็ดอร่อย ด้วยวัตถุดิบเนื้อแกะ เป็นส่วนผสมลำดับแรกในตารางส่วนผสม นั่นหมายความว่า ในถุงนี้จะมีเนื้อแกะเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมไขมันวัวที่ช่วยยั่วกลิ่นและรสชาติให้น่าทานยิ่งขึ้น และสูตรนี้เหมาะสำหรับน้องหมาที่แพ้เนื้อไก่ด้วยเช่นกัน หรือสำหรับน้องหมาที่กินยาก มีพลังงานคุณภาพสูงจากถั่วเหลืองอบ, ข้าว, มันสำปะหลัง, ไขมันไก่, น้ำมันแซลมอน
Pawdy รสแกะรมควัน ยังมีกลูโคซามีน สารอาหารที่ค้นพบแล้วว่าช่วยฟื้นฟูข้อต่อได้ และยังมีบรีเวอร์ ดรายยีสต์ ที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง, ลดอาการคัน และขนร่วง, มีสารสกัดจากยีสต์ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลลำไส้, มีโคลีน เพื่อสุขภาพสมองโดยรวม, มีไบโอติน ซิงค์ และ โอเมก้า 6 ฟื้นฟูสุขภาพผิวหนังและขนให้สวยงาม
หากสนใจ Pawdy สูตรนี้ ต้องสั่งซื้อทันที เพราะสูตรที่ขายดีมากจนสต็อกขาดเป็นประจำ
สำหรับสุนัขวัยชราอายุ 7 ปีขึ้นไป ต้องเลือก Pawdy รสไก่ มีโปรตีน 20% ไขมัน 10% โซเดียม 0.12% ไป (หรือสุนัขทำหมัน, สุนัขป่วย, สุนัขไม่ค่อยทำกิจกรรมนอกบ้าน) ทำจากเนื้อไก่ โปรตีนคุณภาพเหมาะสำหรับช่วงวัยนี้ และยังผสม อีนูลีน ที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ช่วยยืดอายุสุนัขช่วงปลายอายุให้น่ารักยืนยาว
ยิ่งบ้านไหนมี สุนัขสูงวัย ควรต้องรีบซื้อทันที เพราะถ้ายิ่งปล่อยไว้นานวัน บางทีอาจสายเกินไปแล้วก็ได้
แต่ถ้าคุณยังลังเลที่จะซื้ออาหารสุนัข Pawdy แล้วล่ะก็ ต้องรีบ เพราะช่วงนี้เรามีของแถมมูลค่า 7,000 บาท ถ้าซื้อ Pawdy อาหารสุนัข 2 ถุง จะมีของแถมดังนี้
- E-Book คอร์สดูแลสุนัขโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้คุณเข้าใจน้องหมามากขึ้น(มูลค่า 2,000 บ.)
- คอร์สวีดีโอสอนเทรนสุนัขโดยโค้ชเชาว์ ให้น้องหมาได้เรียนรู้ทริค และเทคนิคคูลๆ(มูลค่า 2000 บ.)
- คอร์สสอนทำขนมน้องหมา Pawdy Wonder Meal โดยคุณจี๊ด Food Stylist ระดับประเทศ(มูลค่า 2,000 บ.)
- ไอเทมมหัศจรรย์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ (มูลค่า 1,000 บ.)
สุขภาพชีวิตที่ดีของสุนัขที่คุณรัก ลังเลไม่ได้ สั่งซื้อ Pawdy ในวันนี้ เพื่อให้เค้ามีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส ไม่พบโรคร้ายแรงก่อนวัยควร ถ้าเทียบกับราคาจำหน่าย คุ้มแน่นอน เพราะจะช่วยยืดความน่ารักของสุนัขที่คุณรักอีกนานแสนนาน