เคล็ดลับการเลือกอาหารสุนัขให้ตรงใจนั้น เจ้าของก็ต้องเรียนรู้และศึกษาให้เข้าใจกัน เพราะถ้ายิ่งเจ้าของมีข้อมูลในหัวเกี่ยวกับอาหารสุนัขมากเท่าไร เราก็ยิ่งสามารถคัดเลือกอาหารสุนัขได้อย่างมีคุณภาพ คุ้มราคาด้วย
อาหารสุนัขทุกชนิดที่มีคุณภาพดี จะต้องประกอบไปด้วย
1.น้ำ
เนื่องจากร่างกายสุนัขประกอบไปด้วยน้ำ 70% แต่ถ้าหากสัตว์ขาดน้ำแค่เพียง 10% ก็อาจทำให้สุนัขสุดที่รักของเราตายได้
2.โปรตีน
เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื่อทั้งหลาย เช่น กล้ามเนื้อ, ผิวหนัง, เล็บ และผมเป็นต้น และยังต้องใช้โปรตีนเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์และฮอร์โมน นอกจากนี้โปรตีนก็จะถูกย่อยออกมาเป็นกรดอมิโน โดยกรดอมิโนสำหรับสุนัขจะมีทั้งหมด 22 ชนิด บางชนิดไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ก็ต้องได้มาจากการทานอาหารเข้าไป
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในปัจจุบัน มีการนำเนื้อแกะ และเนื้อกระต่ายมาเป็นแหล่งอาหารสุนัข เพื่อเป็นเนื้อสัตว์ทางเลือก เพราะสุนัขบางตัวแพ้โปรตีนจากเนื้อไก่
ส่วนไข่ไก่ก็ให้สุนัขกินได้ แต่ต้องทำให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน เนื่องจากไข่ขาวดิบมีสาร Avidin ขัดขวางเมตาโบลิซึมวิตามีนบีและไบโอติน
ข้อควรระวังการให้อาหารสุนัขก็คือ เนยแข็ง อาจทำให้สุนัขท้องเสียได้ถ้าหากทานมาก ๆ และน้ำนมวัว มีสารอาหารหลากหลายก็จริง แต่อาจทำให้สุนัขย่อยยาก
ควรหลีกเลี่ยงแป้งข้าวโพด, แป้งถั่วเหลือง, กากถั่วเหลือง ได้ประโยชน์กรดอมิโนน้อยกว่าเนื้อสัตว์และยังมีสารพิษบางอย่างที่ไม่ถูกต่อสุนัขที่เมื่อรวมกับสารอาหารอื่นทำให้ได้รับประโยชน์สารอาหารอื่นไม่เต็มที่
3.คาร์โบไฮเดรต
เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ทำงานร่วมกันกับกรดอมิโนบางอย่าง แต่ไม่ควรทานมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ โดยแหล่งคาร์โบไฮเดรต ยอดนิยมสำหรับสุนัข ส่วนใหญ่เป็นข้าว
4.ไขมัน
เป็นสารอาหารให้พลังงานสูงกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต 2.25 เท่า ไขมันที่ดีต้องอยู่ในแบบของไตรกลีเซอไรด์ โดยแหล่งตำราทางวิทยาศาสตร์ แนะนำให้เป็น น้ำมันลินซีด (น้ำมันเมล็ดฝ้าย) และน้ำมันแฟลกซ์ซีด
5.วิตามิน และแร่ธาตุ
เคล็ดลับการดูอาหารสุนัขแบบเม็ดให้ปังและคุ้มค่า มันวิธีการดูง่าย ๆ คือ ควรอ่านส่วนผสมหรือวัตถุดิบก่อนซื้อทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรโฟกัสส่วนผสม 4-5 ตัวแรก เนื่องจากมีกฏหมายกำหนดให้ผู้ผลิตใส่ชื่อส่วนผสมเรียงตามลำดับจากปริมาณมากไปหาน้อย เราจึงดูเฉพาะ 4-5 ตัวแรกก็จะรู้ได้ว่า มีอะไรอยู่ในอาหารเม็ดเล็กๆนี้ แน่นอนว่า ส่วนผสมอันดับ 1 จะมีปริมาณส่วนผสมมากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามก็มีบางผู้ผลิตพยายามจะเล่นแท็คติกเล่นคำเพื่อให้รู้สึกว่าสินค้าตัวนี้สวยหรูดูมีคุณภาพ แต่จริงๆแล้วมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ เรามาดูข้อมูลหรือศัพท์เบื้องต้นของวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพกัน
- ต้องระบุที่มาของเนื้อสัตว์ได้ เช่น หากเป็นเนื้อไก่ ต้องพิมพ์ในฉลากเลยว่า Chicken แต่จะมีเนื้อสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่ลงท้ายด้วยคำว่า Meal ต่อจากชื่อเนื้อสัตว์หมายความว่ามันเป็นเนื้อสัตว์ผ่านการอบแห้งก่อนเข้าสู่การผลิตอาหารสุนัข มีปริมาณเนื้อสัตว์มากกว่า เพราะรีดน้ำและความชื้นออกไปหมด
- แหล่งคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดี เช่น ข้าวสวย, ข้าวโอ๊ต, มันฝรั่ง (ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ดัดแปลงจากมันฝรั่งอีกทอดหนึ่ง) เป็นต้น
- ควรมีไขมันจากสัตว์และพืช มีแหล่งที่มาระบุชัดเจน เช่น ไขมันจากดอกทานตะวัน หรือ Sunflower oil เป็นต้น ถ้าเป็นน้ำมันที่ไม่ได้ระบุชัดๆว่าทำจากอะไรควรหลีกเลี่ยง
คราวนี้อาหารสุนัขส่วนใหญ่มักเป็นอาหารสุนัขในระดับราคาประหยัด (Economy) อาหารสุนัขเกรดนี้มีจำหน่ายเกลื่อนในท้องตลาดด้วยเหตุผลหลักคือ ราคาถูก ปริมาณเยอะ เมื่อเราพลิกดูส่วนผสมวัตดุดิบ จะพบว่ามักขึ้นต้นด้วย อาทิ ข้าวโพด, ปลายข้าว, กลูเต็นข้าวโพด, แป้งสาลี หรืออื่น ๆ ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ขึ้นต้นเป็นส่วนผสมหลักของตาราง และส่วนใหญ่ส่วนผสมลำดับที่ 2-6 มักเป็นพวกผลพลอยได้จากสัตว์หรือสัตว์ปีก หรือกากพืชอื่นผสม หรือเศษซากสัตว์ไฮโดรไลซ์ ไม่มีเนื้อสัตว์ 100% ผสมอยู่เลยด้วยซ้ำ
วัตถุดิบดังกล่าวล้วนมีต้นทุนต่ำ ให้ปริมาณเยอะเพราะเน้นใช้เศษซากวัตถุดิบจากการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารอื่น ๆ เช่น ซังข้าวโพด เป็นต้น แต่คุณภาพโปรตีนหรือสารอาหารหลักกลับไม่สูงตามปริมาณเลย ที่แย่ไปกว่านั้น บางแบรนด์สามารถกดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงไปอีก จึงสามารถตั้งราคากระสอบ 20 กิโลกรัมแค่เพียง 800 บาทได้
ซ้ำร้ายข้าวโพดและแป้งสาลี มีแต่คาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูงที่อาจเกินความจำเป็นของสุนัขได้ทำให้เกิดการขาดสมดุลของสารอาหาร ทำให้ภูมิต้านทานตก เป็นโรคอ้วนง่าย และยังอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ตามมาด้วย
การทานอาหารสุนัขเกรดราคาถูกนี้ต้องยอมรับว่า เราจะหาความแน่นอนของโปรตีนคุณภาพไม่ได้เลย เพราะไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์แท้ หรืออย่างหนักเลยคือ แค่ส่วนผสมผลพลอยได้จากสัตว์ปีกหรือสัตว์อื่นก็แทบจะไม่ใส่มาให้เลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนกับว่า แทบจะไม่มีโปรตีนดีๆหลงเหลือเลย
ถ้าหากมองแค่ป้ายราคาอย่างเดียวล่ะก็ อาหารสุนัขระดับทั่วไปที่ไม่มีโปรตีนคุณภาพก็ตกถุงละ 1 กว่ากิโลกรัม ราคาประมาณ 150 บาท ถือว่าถูก แต่ถ้าเทียบกับคุณค่าอาหารกับราคาที่ให้ บางครั้งเราอาจต้องพิจารณากันอีกรอบว่ามันคุ้มจริงไหม
แต่ถ้าให้ลองคิดอีกรอบ แล้วลองเปรียบเทียบกับอาหารสุนัขแบรนด์หนึ่ง ที่มีราคาแพงกว่าอาหารทั่วไปประมาณหนึ่ง แต่มีคุณค่าด้านโภชนาการที่ดีกว่าอย่างเทียบไม่ได้เลย แบรนด์อาหารสุนัขที่ให้คุณค่าโภชนการเหนือชั้นกว่าในราคาไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงก็คือ Pawdy
ให้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบชัดเจนคือ Pawdy รสแกะรมควัน ซึ่งเป็น Pawdy ที่ขายดีที่สุด ขนาด 3 กิโลกรัมราคาประมาณ 500 บาทต้น แต่อาหารสุนัขที่เป็นเกรดทั่วไป ขนาด 3 กิโลกรัมก็ขายเข้าไปที่ 440 บาทเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าเพิ่มเงินแค่เพียง 80 กว่าบาท ก็จะได้อาหารสุนัขระดับคุณภาพอย่าง Pawdy กันแล้ว
ความแตกต่างระหว่างอาหารสุนัข Pawdy รสแกะรมควัน และอาหารเกรดทั่วไป ก็คือ คุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาผลิต เราบอกไว้ก่อนเลยว่า วิธีดูคุณภาพส่วนผสมอย่างง่าย ๆ เลยก็คือ ให้ดูลำดับที่ 1 ของตารางส่วนผสมว่าใส่อะไรลงไป หากเป็น Pawdy รสแกะรมควัน เค้าใช้เนื้อแกะและกระดูกแกะป่นของแท้ นั่นหมายความว่า วัตถุดิบส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อแกะแท้จริง ๆ
ยังไม่พอ Pawdy รสแกะรมควัน ทำจากเนื้อแกะแท้ โปรตีนคุณภาพสูง ก็ยิ่งช่วยให้กระตุ้นการกินของสุนัขได้เป็นอย่างดี ยิ่งผสมไขมันวัวก็ยิ่งเรียกกลิ่นเตะจมูกเข้าไปใหญ่ แบรนด์อาหารสุนัขเกรดทั่วไปก็ทำไม่ได้เลย
ส่วนอาหารสุนัขเกรดทั่วไปมีส่วนผสมที่ขึ้นต้นด้วย ข้าวสาลี ข้าวโพด และอื่น ๆ ที่ดูไม่ค่อยมีคุณค่าสารอาหารมากมายเท่าไร ที่สำคัญไม่มีการใส่ส่วนผสมเนื้อสัตว์แท้ลงไปด้วย โดยเฉพาะบางแบรนด์ที่แปะคำว่ารสแกะหน้าซอง แต่กลับไม่มีเนื้อแกะในถุงเลย ทำได้แค่เพียงการแต่งกลิ่น หรือถ้าจะใส่ก็คือเป็นผลพลอยได้จากสัตว์อื่น
มาถึงตรงนี้ขอคำอธิบายว่า ผลพลอยได้จากสัตว์อื่น มันหมายความว่าเป็นการป่นรวมกันของเศษซากสัตว์เหลือจากกระบวนการผลิตอื่น ๆ เช่น เศษเนื้อ, เล็บ, ไส้ใน, กระดูกป่น, เล็บ ปั่นรวมกัน ก็แน่นอนว่าจะทำให้สุนัขของเราได้รับสารอาหารที่แย่ลงกว่าเดิม ย่อยยากเพราะมีเศษเล็บ ดูดซึมยากเพราะไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตว์จริง ทำให้เจ้าของสุนัขที่พอมีความรู้บ้าง มักหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากผลพลอยได้จากสัตว์ปีก หรือสัตว์อื่นทั้งหมด
ยังไม่พอเมื่อเทียบคุณค่าสารอาหารของ Pawdy แกะรมควัน ก็พบว่ายังมีปริมาณสารอาหารที่เหนือกว่าอาหารเกรดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะ Pawdy รสแกะรมควัน มีโปรตีนถึง 23% ไขมัน 10% ขณะที่แบรนด์ทั่วไปโปรตีนไม่ถึง 20% เลย
คุณประโยชน์ Pawdy รสแกะรมควัน สาธยายแทบไม่หมดว่ามันเหนือกว่า อาหารสุนัขเกรดทั่วไปยังไง และนี่คือข้อมูลสรุปของคุณประโยชน์และสารอาหารที่โดดเด่นและเหนือกว่าอาหารสุนัขเกรดทั่วไป ดังนี้
- มีวิตามิน 12 ชนิด (วิตามิน เอ, วิตามิน ดี3, วิตามินอี, วิตามิน เค3, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, กรดแพนโทธีนิก, กรดนิโคติกนิก, กรดโฟลิก, ไบโอติน)
- มีแร่ธาตุ 7 ชนิด (เหล็ก, ทองแดง, แมงกานีส, โคบอลต์, สังกะสี, ไอโอดีน, ซีลีเนียม)
- มีเมไทโอนีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยย่อยสลายไขมัน
- มีโคลีนคลอไรด์ ช่วยในการเจริญเติบโต บำรุงสมอง ป้องกันไขมันพอกตับ
- มี ซิงค์ อะมิโน แอซิด ที่ช่วยทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดขึ้นใหม่ชุ่มชื้นสมบูรณ์ ช่วยให้ผิวลื่นสวยงาม
- มีกลูโคซามีน ช่วยบำรุงและฟื้นฟูข้อต่อ
- มีฟรุกโต โอลิโกแซคคาไรด์ (กลุ่มน้ำตาลฟรุกโตส) ที่ช่วยระบบย่อยอาหาร และลดปัญหาก้อนขนอุดตัน
- บริเวอร์ ดราย ยีสต์ ลดอาการคันและขนร่วง
- ผลิตภัณฑ์จากกระบวนการหมักยีสต์ ช่วยทำให้น้องแมวขับถ่ายง่ายและคล่อง
- มียัคค่า ช่วยลดกลิ่นปัสสาวะและอุจจาระแมว
- มีโพแทสเซียม คลอไรด์ เพื่อรักษาสมดุลร่างกาย
เป็นอย่างไรบ้าง ข้อมูลสำคัญที่เรายกมาถึงย่อหน้านี้ คิดว่าราคาอาหารสุนัข Pawdy รสแกะรมควัน มีความคุ้มค่าสูงสุดถ้าเทียบกับอาหารสุนัขแบบอื่น ๆ บ้างไหม? ถ้าให้ตอบกำปั้นทุบดินคือ ราคาต่างกันไม่เท่าไร แต่ความคุ้มค่าและคุณค่าเหนือชั้นกว่ามหาศาลจริงๆ
และเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ เราจึงขอมอบของสมนาคุณมูลค่า 7,000 บาท Free! เมื่อซื้อ Pawdy สูตร แกะรมควัน 2 ถุง มูลค่า 500 บาท ดังนี้
- E-Book คอร์สดูแลสุนัขโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้คุณเข้าใจน้องหมามากขึ้น(มูลค่า 2,000 บ.)
- คอร์สวีดีโอสอนเทรนสุนัขโดยโค้ชเชาว์ ให้น้องหมาได้เรียนรู้ทริค และเทคนิคคูลๆ(มูลค่า 2000 บ.)
- คอร์สสอนทำขนมน้องหมา Pawdy Wonder Meal โดยคุณจี๊ด Food Stylist ระดับประเทศ(มูลค่า 2,000 บ.)
- ไอเทมมหัศจรรย์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ (มูลค่า 1,000 บ.)
ถ้าเทียบกับราคาจำหน่ายกับคุณค่าที่เจ้าของได้รับ บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะจะช่วยยืดความน่ารักของสุนัขที่คุณรักอีกนานแสนนาน สั่งซื้อได้เลย