อาหารหมามีกี่ชนิด แล้วแบบไหนเหมาะสมกับคุณ

เจ้าของหมาหลายท่าน ก็คงไม่แน่ใจว่าอาหารหมามันมีกี่อย่างกันแน่ เพราะบางคนก็รู้สึกว่า แค่อาหารทำเองให้หมาของเรานั้นก็เพียงพอแล้ว แต่แท้ที่จริงแล้ว

อาหารหมาสามารถแบ่งแยกออกเป็น 5 หมวด ด้วยกัน 

1.อาหารหมาแบบปรุงสุก

เป็นหมวดอาหารหมาที่เรียกว่าทุกบ้านต้องคุ้นเคย พูดง่าย ๆ ก็คือ อาหารหมาที่เจ้าของลงมือทำเองด้วยวิธีการปรุงให้สุก อาจจะใส่เนื้อสัตว์, ผัก ตามใจเจ้าของหรือประเมินว่าหมาเราจะชอบกินเนื้อหรือผักแบบใด อาหารลักษณะนี้จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายเจ้าของลงไปได้มาก ถ้าเทียบกับอาหารสำเร็จรูป

แต่ข้อเสียก็คือ เจ้าของหมาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้โภชนาการของหมา จึงทำให้เจ้าของปรุงอาหาร หนักน้ำตาลและหนักความเค็ม เพราะคิดไปเองว่า หมาจะรับรสชาติแบบมนุษย์ทานได้ แต่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ หากหมาทานอาหารที่มีน้ำตาลและโซเดี่ยมในปริมาณสูงเป็นประจำ หมาตัวนั้นย่อมมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังได้ เช่น โรคไต หรือโรคอ้วนได้

นอกจากนี้อาหารหมาปรุงเอง ควบคุมแคลเลอรี่หรือพลังงานสำหรับหมาได้ยาก หรือถ้าจะคำนวณอย่างถี่ถ้วน ผู้ปรุงเองจะต้องเสียเวลาในการชั่วตวงและคำนวณจำนวนพลังงานให้สมดุลกับหมาอย่างละเอียด

โดยสรุปแล้ว อาหารหมาที่เจ้าของปรุงสุกเองที่มีคุณภาพสูง ต้องพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบ, วิธีการปรุง, การคำนวณพลังงานให้พอดีในแต่ละมื้อ 

2.อาหารหมา BARF 

เป็นอาหารหมาที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้ เพราะเป็นการให้อาหารหมาแบบดิบ (ไม่ผ่านการปรุงสุกใดๆ) และต้องเป็นเกรดเดียวกับที่มนุษย์รับประทานด้วย เพราะมีข้อสังเกตจากฝั่งตะวันตกระบุว่า อาหาร BARF จะเป็นอาหารหมาที่คิดค้นขึ้นตามสัญชาตญาณดั้งเดิมของหมาที่เคยเป็นนักล่า 

ข้อดีของอาหาร BARF ที่หลายคนคุ้นเคยตามบทความต่าง ๆ ก็คือ ช่วยระบบย่อยอาหาร, สุขภาพดี, ขนเงางาม แต่ทว่าข้อเสียมันก็คือ หมาของเราก็ต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคที่มากับอาหารดิบ เช่น แบคทีเรียและพยาธิบางชนิด และถ้าเป็นเนื้อค้างคืน ก็ยิ่งมีโภชนการที่ลดต่ำลง

วิธีการให้อาหารหมาแบบ BARF จึงจำเป็นต้องมีความรู้ด้านโภชนาการสูงมาก และการตระเตรียมก็ยุ่งยาก

3.อาหารหมาแบบเปียก (Semi-Moist)

ภาษาทางวิชาการจะเรียกว่าเป็นอาหารกึ่งชื้น มีคุณลักษณะพิเศษคือ เมื่อแกะจากบรรจุภัณฑ์แล้ว ตัวเนื้ออาหารอยู่ลักษณะกึ่งกลางระหว่างอาหารแห้ง และอาหารเปียก มีความชื้นในอาหาร 60-65% ซึ่งอาหารชนิดนี้คนไทยไม่ค่อยคุ้นหน้าเท่าไรนัก

รูปพรรณของอาหารหมาแบบเปียกมักจะตัดออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมคล้ายกับเนื้อหั่น มีสีสันน่ารับประทานกว่าอาหารแบบอื่น แต่จากการศึกษาของเว็บไซต์การดูแลสุนัขชั้นนำ ระบุว่าอาหารชนิดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำที่สุด เพราะประโคมไปด้วยสีสัน สารปรุงอาหาร และสารเคมีมากมายเพื่อให้หมายอมทาน ดังนั้น อาหารแบบนี้ ไม่ควรให้หมาที่เราเลี้ยงเป็นประจำ นาน ๆ กินทีจะดีกว่า

4.อาหารหมาแบบกระป๋อง (Canned)

ส่วนใหญ่อาหารประเภทนี้จะพบเห็นได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้าน petshop เพราะมันสะดวกต่อการเก็บรักษา, ประหยัดพื้นที่ในการวางสินค้า, มีกำไรต่อหน่วยสูงกว่าอาหารประเภทอื่น แต่ใช่ว่าอาหารหมาแบบกระป๋องจะมีแค่ข้อดีสำหรับพ่อค้า แต่อาหารแบบนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของสุนัขด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ หมาป่วย ซึ่งอาการป่วยย่อมส่งผลกระทบต่อการกินอย่างแน่นอน การกินอาหารที่ชุ่มน้ำก็จะทำให้กลืนได้ง่าย

อาหารกระป๋องประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 75% ถ้ายิ่งปริมาณน้ำมาก คุณค่าสารอาหารจะลดน้อยตามไปด้วย ถ้าให้ดีเจ้าของต้อง ดูฉลาดข้างกระป๋องที่ระบุว่า “มีคุณค่าทางโภขนาการ 100%” 

5.อาหารหมาแบบเม็ด (Kibble/Dry)

อาหารหมาแบบเม็ดนั้นเป็นอาหารยอดนิยมของคนเลี้ยงหมาโดยส่วนใหญ่เพราะหาซื้อได้ง่าย เก็บไว้ได้นาน ไม่ต้องกังวลว่าจะเน่าเสียตอนไหน? ที่สำคัญมีให้เลือกหลายเกรดและหลายสูตรสำหรับหมาที่มีความแตกต่างเฉพาะ

อาหารหมาแบบเม็ดนั้น คือการรวมส่วนผสมสำคัญที่ผ่านกระบวนทำให้สุกแล้วมาบดละเอียดเป็นเม็ด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และให้การยอมรับว่าอาหารหมาแบบเม็ดเป็นแหล่งโภชนาการที่ดีสำหรับหมาทุกชนิด 

หลายท่านอาจไม่ทราบเลยว่าประวัติของอาหารหมาแบบเม็ดก็มีมายาวนานกว่า 160 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นก็คือ James Spratt ช่างไฟฟ้าและพนักงานขายใน Cincinnati สหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นขนมปังกรอบ (บิสกิต) สำหรับสุนัข ที่มีส่วนผสมของ ข้าวสาลี, ผัก, บีทรูท และเลือดของเนื้อวัว  

หลังจากที่มีการตอบรับดี James Spratt จึงส่งอาหารสุนัขที่เพิ่งคิดค้นลงสู่ตลาดอังกฤษประมาณปี ค.ศ. 1860 ในช่วงแรกตีตลาดกลุ่มเจ้าของสุนัขที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาก่อน 

ต่อมีบริษัทมหาชนสัญชาติอังกฤษซื้อสูตรอาหารสุนัขและการผลิตจาก James Spratt เพื่อตีตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1890 ทั้งนี้มีการประยุกต์สูตรใหม่จากพื้นฐานสูตรดั้งเดิม 

วิวัฒนาการของอาหารหมาแบบเม็ดนี้ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งวิทยาศาสตร์ด้านโภชนาการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงถือกำเนิดอาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขครั้งแรกในโลกที่ถูกออกแบบตามหลักโภชนการสำหรับลูกสุนัขประมาณปี ค.ศ. 1960 

อาหารหมาแบบเม็ดก็มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งในช่วงกลางยุค 1980 สภาวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมวเป็นครั้งแรกของโลก ทำให้อาหารหมาทุกชนิดต้องปรับตัวตาม และมีการปรับปรุงข้อกำหนดฉบับล่าสุดในปี ค.ศ.2006 สะท้อนถึงวิวัฒนาการวิทยาศาสตร์ด้านโภชนาการสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์สามารถค้นหาความสมดุลและความสมบูรณ์ได้

ข้อดีหลักๆ ของอาหารหมาแบบเม็ด  คือ ราคาไม่แพง, เก็บรักษาง่าย, อาหารเป็นเม็ดทรงแปลก ๆ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟันที่ดี การขบเคี้ยวจะลดคราบหินปูน แต่ข้อเสียคือ อาหารหมาแบบเม็ดบางแบรนด์อาจมีกระบวนการผลิตไม่ดี มีวัตถุดิบที่แย่ และอาจมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งผู้เลี้ยงหมาบางท่านอาจไม่แน่ใจว่าอาหารหมาที่ดีดูได้ยังไงดี?

วิธีการดูอาหารหมาแบบเม็ดในขั้นพื้นฐานก็คือ ต้องอ่านฉลากอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่ควรมีสารกันบูดใดๆ, ไม่ควรมีสารเติมสี แต่งกลิ่นใด ๆ

หากเป้าหมายของผู้เลี้ยงหมาต้องการอาหารหมาที่มีคุณภาพสูง อยากให้เค้าแข็งแรง ขนสวยเงางาม สุขภาพยืนยาว เราก็ต้องดูอาหารหมาแบบเม็ดในระดับเกรดพรีเมี่ยมขึ้นไปที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ขึ้นด้วยลำดับแรกของส่วนผสม ณ จุดนี้สังเกตให้ดีว่า ถ้ายิ่งเป็นอาหารหมาที่มีความพรีเมี่ยมมากเท่าไร ก็ยิ่งใส่ส่วนผสมเนื้อสัตว์นานาชนิดเข้าไปมากมาย

อาหารหมาเกรดพรีเมี่ยมหลายแบรนด์จะผสมพลังงานและพืชผักที่เหมาะสมสำหรับหมา เช่น ข้าว, มันสำปะหลัง, แครอท, ฟักทอง เป็นต้น

และข้อสังเกตนี้สำคัญ ต้องเลือกอาหารหมาที่ไม่มีส่วนผสมของข้าวโพด, แป้งสาลี, กลูเต็นอื่น ๆ เพราะทั้งหมดจะก่อให้เกิดภูมิแพ้หมาในระยะยาวได้ และต้องมีโซเดี่ยมต้องต่ำด้วย เพื่อป้องกันเป็นโรคไตเรื้อรัง ซึ่งโรคไตเป็นโรคที่ทำให้หมาเสียชีวิตสูงมาก

เมื่อเราทราบข้อพิจารณาการเลือกอาหารหมาเกรดพรีเมี่ยมไปแล้วก็ยังนึกไม่ออกอีกว่า จะเลือกอาหารหมาพรีเมี่ยมยี่ห้อใดอยู่ดี ที่จริงมีอยู่แบรนด์หนึ่งที่ตรงครบกับคุณสมบัติข้างตนพอดีเปะ ถ้าเช่นนั้นเราขอแนะนำ Pawdy อาหารหมาเกรด Upper Premium ที่มีวัตถุดิบจากเนื้อสัตว์ 100% ขึ้นต้นในลำดับแรกของตารางส่วนผสม, ไม่ผสมข้าวโพด แป้งสาลี มีโซเดี่ยมต่ำอีกด้วย

Pawdy อาหารหมาเกรด Upper Premium มีให้เลือกถึง 3 สูตร ได้แก่

1.สูตรไก่ สำหรับหมาโตเต็มวัยที่ทำกิจกรรมน้อยลงหรือหมาสูงวัยที่ใช้พลังงานน้อย มีโปรตีน 20% ไขมัน 10% 

• บำรุงสุขภาพผิวหนังและขนด้วยกรดไขมัน โอเมก้า 3และ6
• ลดคราบน้ำตา ลดขนร่วง
• ลดกลิ่นอุจจาระ ปัสสาวะด้วย ยัคคา ซิดิเจอร่า
• ช่วยดูแลระบบลำไส้ ระบบย่อยอาหาร
• เพื่อสุขภาพบำรุงสมองโดยรวม
• ไม่มีผลพลอยได้จากสัตว์ปีกป่นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการย่อยหรือการสะสมของสารพิษ
• เป็นสูตรควบคุมโซเดียม ช่วยลดความเสี่ยงโรคไต ช่วยถนอมไต
• เสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เสริมภูมิคุ้มกัน

2.สูตร Puppy&Mom รสแกะและข้าว สำหรับลูกหมาวัยไม่เกิน 1 ปีและแม่หมาที่ต้องการสารอาหารเพื่อช่วยสร้างน้ำนม มีโปรตีน 28% ไขมัน 2%

• ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
• แคลเซี่ยมสูง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต
• เสริมสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรงในลูกหมา
• ลดคราบน้ำตา ลดกลิ่นอึ กลิ่นฉี่
• ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
• เม็ดเล็ก ทานง่าย กลิ่นหอม เพิ่มความอยากอาหารมากขึ้น
• หมาแพ้ไก่ ทานได้ หมาแพ้อาหาร ทานได้ บำรุงขน-ผิวหนัง

3.สูตรแกะรมควัน สำหรับหมาวัย 1 ปีขึ้นไป มีโปรตีน 23% ไขมัน 10%

• คัดสรรเนื้อแกะแท้ๆ ที่ได้คุณภาพ น้องหมาของคุณจึงได้รับโปรตีนคุณภาพชั้นเยี่ยมไปอย่างเต็มๆ 
• มีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน 
• ช่วยควบคุมคอเรสเตอรอล มีปริมาณไขมันที่เหมาะสม 
• ช่วยบำรุงขนให้สวยงาม บำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้น
• เพิ่มภูมิต้านทานให้แข็งแรงด้วยวิตามินแร่ธาตุต่างๆ
• ขับถ่ายง่าย อุจจาระเป็นก้อน
• มี Yucca ช่วยลดกลิ่นเหม็นของอุจจาระ
• ไม่ทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกินหรือโรคอ้วน
• เหมาะกับน้องหมาที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักแต่ยังต้องการโปรตีน

ทุกสูตรของ Pawdy มีส่วนผสมปัง ๆ ดังต่อไปนี้

• มีวิตามิน 12 ชนิด (วิตามิน เอ, วิตามิน ดี3, วิตามินอี, วิตามิน เค3, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, กรดแพนโทธีนิก, กรดนิโคติกนิก, กรดโฟลิก, ไบโอติน)
• มีแร่ธาตุ 7 ชนิด (เหล็ก, ทองแดง, แมงกานีส, โคบอลต์, สังกะสี, ไอโอดีน, ซีลีเนียม)
• มีเมไทโอนีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยย่อยสลายไขมัน
• มีโคลีนคลอไรด์ ช่วยในการเจริญเติบโต บำรุงสมอง ป้องกันไขมันพอกตับ
• มี ซิงค์ อะมิโน แอซิด ที่ช่วยทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดขึ้นใหม่ชุ่มชื้นสมบูรณ์ ช่วยให้ผิวลื่นสวยงาม
• มีกลูโคซามีน ช่วยบำรุงและฟื้นฟูข้อต่อ
• มีฟรุกโต โอลิโกแซคคาไรด์ (กลุ่มน้ำตาลฟรุกโตส) ที่ช่วยระบบย่อยอาหาร และลดปัญหาก้อนขนอุดตัน
• บริเวอร์ ดราย ยีสต์ ลดอาการคันและขนร่วง
• ผลิตภัณฑ์จากกระบวนการหมักยีสต์ ช่วยทำให้น้องแมวขับถ่ายง่ายและคล่อง
• มียัคค่า ช่วยลดกลิ่นปัสสาวะและอุจจาระแมว
• มีโพแทสเซียม คลอไรด์ เพื่อรักษาสมดุลร่างกาย

รับประกันเลยว่า Pawdy ทุกสูตร รสอร่อยและมีประโยชน์ต่อหมาแน่นอน แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่า Pawdy คุ้มค่าอย่างไร ลองนึกภาพตามดูว่าถ้าหากหมามีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงยาวนาน เราก็จะอยู่คู่กับเค้าไปนาน ๆ จริงไหมคะ? และยังไม่พอ เราจะมีของแถมสุดพิเศษ มูลค่า 7,000 บาท Free! เมื่อซื้อ Pawdy สูตร แกะรมควัน 2 ถุง มูลค่า 500 บาท ดังนี้

• E-Book คอร์สดูแลหมาโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้คุณเข้าใจน้องหมามากขึ้น(มูลค่า 2,000 บ.) 
• คอร์สวีดีโอสอนเทรนหมาโดยโค้ชเชาว์ ให้น้องหมาได้เรียนรู้ทริค และเทคนิคคูลๆ(มูลค่า 2000 บ.)
• คอร์สสอนทำขนมน้องหมา Pawdy Wonder Meal โดยคุณจี๊ด Food Stylist ระดับประเทศ(มูลค่า 2,000 บ.)
• ไอเทมมหัศจรรย์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ (มูลค่า 1,000 บ.)

รีบสั่งซื้อ Pawdy สูตรแกะรมควันให้เค้าทานตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เค้ามีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ ไม่พบโรคร้ายแรงก่อนวัยควร ถ้าเทียบกับราคาจำหน่ายกับคุณค่าที่เจ้าของได้รับ บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะจะช่วยยืดความน่ารักของหมาที่คุณรักอีกนานแสนนาน สั่งซื้อได้เลย

คลิกสั่งซื้อได้เลย !!