สัญญาณเตือน! น้องหมาเป็นมะเร็ง เช็กอาการก่อนสายเกินดูแล

สัญญาณเตือน! น้องหมาเป็นมะเร็ง เช็กอาการก่อนสายเกินดูแล

โรคมะเร็งในสุนัข เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในสุนัขสูงวัยช่วงอายุ 10-15 ปี แต่อาจพบได้เร็วกว่านี้ได้เช่นกันหากมีปัจจัยเสี่ยง แต่หากตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้พวกเค้าหายจากโรคมะเร็งได้มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่างเราจึงควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และพฤติกรรมของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นที่อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้ทันเวลา

10 สัญญาณเตือนเมื่อน้องหมาเป็นมะเร็ง

หากสังเกตเห็นอาการดังต่อไปนี้ในน้องหมาของเรา คุณพ่อคุณแม่ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์โดยเร็ว

  1. น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

หากน้องหมามีน้ำหนักที่ลดลงอย่างผิดปกติ แม้ยังคงกินอาหารได้ตามปกติหรือมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย นี่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งในช่องปาก, มะเร็งกระเพาะอาหาร, มะเร็งลำไส้, หรือมะเร็งตับ

  1. อาเจียนหรือท้องเสียเรื้อรัง

การอาเจียนหรือท้องเสียที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีน้ำหนักลดลงร่วมด้วย ควรระวังมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร

  1. กลืนอาหารลำบาก 

น้องหมาที่กินอาหารได้น้อยลงและดูเหมือนเจ็บปวดเวลากลืนหรือมีน้ำลายไหลผิดปกติ ควรได้รับการตรวจดูช่องปากและลำคออย่างละเอียด เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งบริเวณลำคอหรือคอหอยได้

  1. พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนไป

หากน้องหมาเริ่มมีปัญหาในการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะผิดที่ ปัสสาวะบ่อย หรือมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะหรือเบ่งอุจจาระนานผิดปกติ อาการเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือมะเร็งไตได้

  1. มีก้อนเนื้อที่โตขึ้นผิดปกติและแผลที่หายช้า

หากพบก้อนเนื้อที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ยุบหายไปหรือมีแผลที่หายช้ากว่าปกติ มีลักษณะบวม แดง หรือมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนังหรือเนื้องอกใต้ผิวหนังได้ โดยเฉพาะเมื่อมะเร็งไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้แผลหายได้ช้าลง

  1. เลือดออกผิดปกติ

awมะเร็งบางชนิดสามารถไปรบกวนหรือทำลายหลอดเลือด จนทำให้เกิดเลือดออกจากจมูก ปาก หู อวัยวะเพศ หรือมีเลือดปนในอุจจาระและปัสสาวะได้

  1. มีกลิ่นเหม็นจากปาก หู หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย 

น้องหมาที่เป็นมะเร็งมักจะมีกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว เช่น กลิ่นปากเหม็นรุนแรง ร่วมกับการมีแผลในปากหรือฟันหลุดร่วงง่าย ซึ่งอาจเกิดจากมะเร็งในช่องปาก

  1. หายใจลำบากหรือมีอาการไอบ่อย

หากน้องหมามีอาการไอต่อเนื่องนานเกิน 2-3 วัน หรือเริ่มมีอาการหายใจติดขัด หอบ หรือเหนื่อยง่าย อาจเป็นสัญญาณของก้อนเนื้อในปอดหรือช่องอกที่กดทับทางเดินหายใจ ทำให้น้องหมาหายใจไม่สะดวก เช่น มะเร็งปอด, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, หรือมะเร็งหลอดเลือด

  1. เดินกะเผลก เดินเซ หรือเจ็บกระดูก

เนื้องอกในกระดูกหรือระบบประสาท อาจทำให้น้องหมาเดินผิดปกติ ไม่ยอมลงน้ำหนักขา หรือร้องครวญครางเมื่อขยับตัว

  1. อ่อนแรง เหนื่อยง่าย

หากน้องหมามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น ซึม ไม่ร่าเริง ไม่อยากเล่นหรือนอนนานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติภายในร่างกายที่เกิดจากมะเร็งได้เช่นกัน

การตรวจวินิจฉัยและการรักษา

หากคุณพ่อ คุณแม่สังเกตเห็นน้องหมามีอาการต่าง ๆ ที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเกิดขึ้นแค่อาการเดียวหรือเกิดพร้อมกันหลายอาการ ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยการวินิจฉัยอาจทำได้หลายวิธี

  • การเจาะชิ้นเนื้อ (Fine-Needle Aspiration – FNA) – โดยใช้เข็มเล็ก ๆ ดูดตัวอย่างเซลล์จากก้อนเนื้อไปตรวจใต้กล้องจุลทรรศน์
  • การตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) – เพื่อนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ 
  • การตรวจเลือด – เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและหาความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็ง
  • การถ่ายภาพวินิจฉัย – เช่น การเอกซเรย์ (X-ray) ช่องอกหรือช่องท้อง การอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ช่องท้อง หรือการทำ CT scan เพื่อประเมินการแพร่กระจายของมะเร็ง

แนวทางการรักษาน้องหมาเป็นมะเร็ง

การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของน้องหมา โดยวิธีการรักษาที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่

  • การผ่าตัด : เพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายที่มองเห็นได้ มักใช้กับมะเร็งที่ยังไม่แพร่กระจายมาก 
  • การทำเคมีบำบัด : ใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจกระจายไปทั่วร่างกาย สามารถให้ทางหลอดเลือดดำหรือรับประทาน
  • การฉายแสง : ใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งเฉพาะจุด 
  • การใช้ยาเฉพาะทาง : ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะต่อเซลล์มะเร็งบางชนิด

ซึ่งสัตวแพทย์จะเป็นผู้ประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับน้องหมาของเรา

วิธีการป้องกันไม่ให้น้องหมาเป็นมะเร็ง

เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่ซับซ้อนและมีสาเหตุการเกิดโรคอยู่หลายปัจจัย การป้องกันโดยตรงจึงอาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม คุณพ่อ คุณแม่สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้ด้วยการ

  • พาไปตรวจสุขภาพประจำปี: โดยเฉพาะน้องหมาที่เริ่มมีอายุมากขึ้น การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้สัตวแพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
  • หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลง: ตรวจสอบร่างกายและพฤติกรรมของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ทันที
  • ดูแลโภชนาการและน้ำหนัก: ให้อาหารที่มีคุณภาพและรักษาน้ำหนักตัวของน้องหมาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม 
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย: ลดการสัมผัสสารเคมีในสิ่งแวดล้อมที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง

โรคมะเร็งในสุนัขอาจฟังดูน่ากลัว แต่หากเรารู้เร็ว ก็ย่อมรักษาได้ การใส่ใจและหมั่นสังเกตอาการของพวกเค้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกรักของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่กับเราไปได้อีกนาน ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.petmd.com/dog/conditions/signs-of-cancer-in-dogs

https://sashvets.com/pet-advice/10-early-warning-signs-of-cancer-in-dogs/

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top