โรคฮีทสโตรกในสุนัขหรือสัตว์เลี้ยง อาการ พร้อมวิธีดูแลและป้องกัน

ฮีทสโตรกในสุนัข (Heat Stroke) หรือโรคลมแดดที่เราคุ้นเคยในคน ถือเป็นสภาวะที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งที่สามารถส่งผลต่อแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนที่มีอากาศร้อนจัด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับแม่ ๆ ทุกคนที่ควรรู้จักอาการของฮีทสโตรกในสุนัข วิธีการป้องกัน และขั้นตอนที่ควรทำหากลูก ๆ ได้รับผลกระทบ การรู้จักอาการ และการปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็วอาจช่วยชีวิตของพวกเขาได้

อาการของฮีทสโตรกในสุนัข

ฮีทสโตรกในสุนัขจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของร่างกายสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นสูงเกินไป โดยทั่วไปเกินกว่า 104°F (40°C) ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานผิดปกติของอวัยวะภายในหลายส่วน และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยจะมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนซึ่งควรจับตาดูในสุนัข และแมว ดังนี้

• การหอบเหนื่อยมากกว่าปกติ : สุนัขจะหอบเหนื่อยอย่างหนัก กระทั่งแมวก็อาจหอบเหนื่อยซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยงชนิดนี้
• น้ำลายไหล : อาจพบการไหลของน้ำลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถ้าหากน้ำลายมีความเหนียว และหนืด
• อยู่ไม่นิ่ง กระวนกระวาย : สัตว์เลี้ยงอาจดูไม่สงบหรือวิตกกังวล
• มีอาการอ่อนเพลีย : ในทางตรงกันข้าม บางตัวอาจมีอาการอ่อนเพลียผิดปกติได้เช่นกัน
• อาเจียนหรือท้องเสีย : อาการเหล่านี้จะรุนแรงขึ้น และอาจบ่งชี้ถึงความเดือดร้อนของอวัยวะ
• เหงือกแดงหรือซีด : ตรวจเหงือกของสัตว์เลี้ยงของคุณ ถ้าพวกเขามีสีแดงหรือซีดผิดปกติก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล
• อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น : สามารถสังเกตเห็นได้ว่าหัวใจของสัตว์เลี้ยงเต้นเร็วกว่าปกติ
• ล้มลงหมดสติหรือชัก : ในกรณีที่รุนแรง สัตว์เลี้ยงอาจล้มหรือมีอาการชัก

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับฮีทสโตรกในสุนัข

หากลูก ๆ ของคุณกำลังเผชิญอาการโรคลมแดดอยู่ ควรรีบปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

• ย้ายไปยังพื้นที่ที่เย็น และอยู่ในที่โล่ง : ควรรีบพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปยังสภาพแวดล้อมที่เย็นกว่า และมีอากาศถ่ายเทสะดวกเช่น ห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือร่มเงา
• เพิ่มความเย็นให้ร่างกาย : ใช้น้ำเย็น (ไม่เย็นจัด) ลูบไปทั่วตัวของสัตว์เลี้ยงของคุณหรือใช้ผ้าเปียก โดยเน้นที่ศีรษะ คอ และบริเวณใต้ขา หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็นจัดเพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้
• ให้ดื่มน้ำ : ให้ดื่มน้ำที่เย็น และไม่เย็นจัด แต่ไม่ควรบังคับหากพวกเขาไม่ต้องการดื่ม เพราะอาจเกิดการสำลักได้
• นำสัตว์เลี้ยงส่งโรงพยาบาล : แม้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณดูเหมือนจะหายจากอาการต่าง ๆ แล้วก็ยังสำคัญมากที่จะต้องไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะโรคลมแดดอาจมีผลกระทบที่ต่อเนื่องไปอีกระยะนึง การได้รับการประเมินร่างกายจากมืออาชีพจึงจำเป็นอย่างยิ่ง

การป้องกันฮีทสโตรกในสุนัข

การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ และวิธีการป้องกันโรคลมแดดในสัตว์เลี้ยงที่นำมาแนะนำมีดังต่อไปนี้ค่ะ 

• หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ร้อน : อย่าทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดอยู่ แม้ว่าจะเปิดหน้าต่าง และหลีกเลี่ยงการเดินเล่นหรือออกกำลังกายในช่วงเวลาที่อากาศร้อนที่สุดของวัน
• ให้อยู่ในที่ร่ม และให้ดื่มน้ำสม่ำเสมอ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีน้ำสะอาดเย็นและพักผ่อนในที่ที่มีร่มเงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่นอกบ้าน
• ปรับสภาพกับความร้อน : ให้สัตว์เลี้ยงของคุณค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไม่ควรให้พวกเขาสัมผัสกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
• รู้จักขีดจำกัดของสัตว์เลี้ยง : เข้าใจถึงอายุ พันธุ์ และสถานะสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของคุณ เนื่องจากบางตัวอาจเป็นมีความเสี่ยงต่อความร้อนมากกว่าปกติ
• ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความเย็น : พิจารณาใช้เสื่อหรือเสื้อเย็นสำหรับสัตว์เลี้ยง เจลเย็นต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์เลี้ยงของคุณอยู่นอกบ้านหรือมีแนวโน้มที่อากาศจะร้อนเกินไป

ฮีทสโตรกในสุนัขเป็นภาวะฉุกเฉินที่สามารถป้องกันได้ซึ่งต้องการให้เหล่าแม่ ๆ ต้องมีความระมัดระวัง และหมั่นสังเกตอาการ โดยทำความรู้จักอาการ ดำเนินการเพื่อป้องกันการร้อนเกิน และการรู้วิธีการดำเนินการในกรณีฉุกเฉิน คุณสามารถปกป้องลูกน้อยของคุณจากสภาวะที่อันตรายนี้ได้ 

จำไว้เสมอว่า เมื่อมีข้อสงสัย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อให้ได้การดูแลที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยนะคะ